ความฝันของผม “ผู้เป็นพ่อ” หลังพ้นโทษ

2015-5-01 / อรัญ โมดี 阿藍 /  ความฝันของผม “ผู้เป็นพ่อ” หลังพ้นโทษ  / ไทย 泰國 / เรือนจำไทเป 台北監獄


ชีวิตคนเรานั้นไม่มีอะไรแน่นอน และไม่มีอะไรที่จีรังยั่งยืนมั่นคงได้ตลอดไป ทุกอย่างก็เปลี่ยรแปลงไปตามพรหมลิขิตกำหนดไว้ บนเส้นทางเดินชีวิตของแต่ละคน คงไม่มีใครกล้าพูดว่า ตัวเองนั้นไม่เคยพบกับความเสียใจ ผิดหวัง แพ้พ่าย ล้มเหลว และท้อแท้กับชวิต บนเส้นทางเดินชีวิตมีทั้งสุขและทุกข์กันทุกคน ถึงแม้ว่าวันวานจะผ่านพ้นไปไม่อาจย้อนกลับมาได้ แต่ผมก็อยากจะเก็บวันเวลานั้นให้อยู่ในความทรงจำของผมตลอดไป อย่างเช่นชะตาชีวิต และความฝันของผมที่ผมกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้
แรงงานต่างชาติทุกคนที่เข้ามาทำงานในไต้หวันต่างมีความฝันเหมือนกันทุกคน คือต้องการยกฐานะของตัวเองและครอบครัวให้ดีขึ้น และก็มีหลายคนที่สร้างฝันของตัวเองสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และยังสร้างฐานะชื่อเสียงให้แก่ครอบครัวและวงค์ตระกูลอีกด้วย แต่ก็อย่างว่าหละครับ ในเมื่อมีบวกก็ต้องมีลบเป็นธรรมดา คนเรานั้นไม่ได้มีชีวิตที่ราบรื่นเหมือนกันทุกคน และเส้นทางเดินชีวิตก็ไม่ได้โรยด้วยดอกกุหลาบเสมอไป ยังมีหลายคนที่ผิดหวังกับชีวิต และยังมีอีกมากมายหลานคนที่มีฝัน หนึ่งในนั้นก็คือผม นายอรัญ โมดีคนนี้นั่นเอง แต่ผมก็ยังไม่ยอมแพ้ต่อชะตาชีวิตของผมเลยถึงแม้เส้นทางชีวิตของผมจะดูมืดมิดก็ตาม แต่ผมต้องสู้ต่อไป เพื่อความหวังของวันข้างหน้า ตราบใดที่ผมยังมีลมหายใจ ชีวิตใหม่ในวันพรุ่งนี้ยังมีความหวัง ขอเพียงแค่อยู่อย่างมีความหวัง และกำลังใจที่ดี คือกำลังใจที่ให้กับตัวเอง และกำลังใจจากคนที่เรารักและรักเรา ก็คือกำลังใจจากพ่อแม่ ลูกและพี่ ๆ อนุบาลในไต้หวัน คนเรานั้นอยู่ได้เพราะความรักและกำลังใจที่ดี ถึงแม้ตอนนี้ผมได้เข้ามาอย่ในเรือนจำไทเปแห่งนี้ก็ตาม ผมจะสู้สู้สู้สู้เพื่อตัวเองและพ่อแม่ และลูกของผมครับ
ผมเองก็เป็นอดีดแรงงานต่างชาติคนหนึ่งที่เคยวาดฝันไว้ว่าอยากมีทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนอย่างที่คนอื่นเขามีกัน แต่ว่าความฝันของผมนั้นไปไม่ถึงฝั่ง ฝันของผมนั้นก็สลายมลายไปเสียแล้ว ซึ่งผมไม่เคยโทษใคร โทษตัวเองดีกว่า ผมเป็นคนทำความฝันของผมพังด้วยมือของตัวเอง จริงอยู่ผมเสียใจมาก แต่ผมก็ไม่คิดยอมแพ้หรือย่อท้อต่ออุปสรรคในวันข้างหน้า ผมพยายามสานฝันของตัวเองให้เป็นจริงอยู่ เสมอ ถึงแม้ผมจะใช้เวลาก็ตาม ผมตั้งใจจะต้องทำให้ได้และต้องสำเร็จ และมันจะไม่พังเป็นครั้งที่สองแน่ ฝันของผมนั้นก็คือผมอยากจะกลับไปตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ เพราะว่าพระคุณพ่อแม่นั้นยิ่งใหญ่และประเสริฐยิ่งนัก จะหาสิ่งใดมาเปรียบเทียบก็หามิได้ ท้องฟ้าหรือมหาสมุทรที่ว่ากว้างใหญ่ไพศาลขนาดไหนก็ยังไม่เท่าบุญคุณของพ่อแม่ที่มีต่อลูกเลย จะมีรักใดเล่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่มีค่าที่สุดเท่ากับความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูก ผมเองก็ทำให้พ่อแม่เสียใจมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ท่านก็ไม่โกรธและเกลียดผมแม้แต่น้อย ท่านมีแต่คอยให้กำลังใจลูกเสมอ และยังนับวันตั้งตารอคอยการกลับไปสู่อ้อมกอดของพ่อแม่อีกครั้ง เห็นไหมหละครับว่าความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือความรักจากพ่อแม่ ถึงแม้ว่าลูกของตัวเองจะทำผิดต้องโทษคดีอาญาหรือทำผิดแบบไหน ผู้เป็นพ่อแม่ก็ยังรักและให้อภัยลูกเสมอ ทุกวันนี้ท่านทำเพื่อผมมามากแล้ว ถึงเวลาแล้วที่ท่านจะได้พักผ่อน ผมคิดว่าสิ่งที่ผมจะทำนั้นท่านต้องภูมิใจอย่างน่นอน ถึงแม้ผมจะไม่ได้ครึ่งหนึ่งของท่านก็ตาม เหมือนดังสุภาษิตที่ว่า “ควรเลี้ยงดูท่านตอนเป็นดีกว่า มาเซ้นไหว้ตอนตาย”
และความฝันอีกประการหนึ่งของผมก็คือ ผมฝันอยากเห็นอนาคตของลูกสาวผมอยู่อย่างสบาย ใช้ชีวิตอย่างราบรื่นไม่ต้องลำบากเหมือนผม  ผมอยากเห็นลูกสาวมีความสุข และอยากเห็นอนคตอันสวยงานของลูกสาว ผมเชื่อว่าไม่มีพ่อคนไหนที่ไม่อยากเห็นลูกสาวลูกชายของตัวเองได้ดีหรอกใช่ไหมครับ ...ผมก็เป็นพ่อคนหนึ่งที่วาดความฝันอันสดใสไว้ให้กับลูกสาว ผมจึงต้องตัดสินใจมาทำงานที่ไต้หวัน ก็เพื่อจะเก็บเงินสร้างอนาคตให้กับครอบครัว โดยต้องจากบ้านจากพ่อแม่และลูกสาวตัวเล็ก ๆ อายุเพียงแค่ 9 เดือน ใจจริงไม่อยากจากลูกมาเลย เพราะว่าลูกสาวผมนั้นกำลังน่ารักน่าชังเลยทีเดียว แต่เพื่ออนาคตของครอบครัว ผมจึงต้องจากบ้านเกิด จากคนที่รักมาอยู่แดนไกลในไต้หวันแห่งนี้
ผมทำงานในไต้หวันก็ตั้งใจทำงาน เก็บเงินส่งกลับบ้านทุกเดือนอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่ละเดือนผมก็ไว้ใช้จ่ายส่วนตัวนิดนหน่อย ก็เพราะอยาให้ครอบครัวมีควาเป็นอยู่ที่ดีขึ้น งานหนักผมก็เอางานเบาผมก็สู้ ผมไม่เคยบ่นเลยสักคำ ผมเจ็บป่วยแค่ไหนก็ต้องกัดฟันอดทนทำ ก็เพราะว่าเงินตัวเดียว ผมทำงานได้ไม่นานก็ใช้หนี้ธนาคารที่กู้มาจนหมดทั้งต้นทั้งดอก ผมและครอบครัวดีใจมาก ผมได้โทรคุยกับพ่อแม่ว่า ตอนนี้ผมใช้หนี้หมดแล้ว ต่อไปเป็นของผมและครอบครัว ผมวาดฝันไว้ว่าผมจะต้องเก็บเงินให้ได้เยอะ เพราะผมเหลือสัญญางานอีกนานกว่าจะหมดอายุสัญญาจ้าง ถ้าสัญญาจ้างงานหมดอายุผมจะขอร้องให้เจ้านายช่วยต่ออายุงานให้ผม เจ้านายก็ตอบตกลง ท่านชอบผมมาก เพราะผมขยันตั้งใจทำงาน ที่สำคัญท่านชอบผมมากกว่าใคร เพราะผมไม่ดื่มเหล้าไม่สูบบุหรี่ และไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด  ผมเริ่มเก็บเงินได้มากแล้ว ความฝันของผมใกล้เป็นจริงแล้ว ผมทำงานได้แค่ปีกว่า ก็ได้คุยกับเพื่อนไม่ดีชอบดื่มเหล้า เล่นการพนันจึงทำให้ผมเสียคน จากนั้นไม่นานผมก็กลายเป็นคนติดเหล้า ติดร้านไทย และความฝันของผมก็พังทลายลงในพริบตา วันนั้นผมเมาเหล้า แลเกิดเรื่องทะเลาะกันขึ้น ผมเลยพลั้งมือฆ่าคนตาย
ผมมาอยู่เรือนจำผมได้เขียนจดหมายและโทรกลับบ้านเพื่อถามข่าวคราวและขอโทษทุกคนที่อยู่ทางบ้าน และสิ่งที่ผมนึกไม่ถึงก็คือทุกคนไม่ได้โกรธผมเลยแม้แต่น้อย ทุกคนได้แต่ปลอบใจและให้กำลังใจผม และพร้อมรอคอยวันที่ผมกลับบ้าน ทุกครั้งที่ผมโทรกลับบ้าน ผมได้โทรคุยกับลูกสาวสุดที่รักของผม พอได้ยินเสียงของลูกสาวถามผมว่า “พ่ออ้อนคะ พ่ออ้อนอยู่ที่ไหน พ่ออ้อนทำงานเหนื่อยไหมคะ พ่ออ้อนเก็บเงินได้เยอะหรือยัง หนูรักและคิดถึงพ่ออ้อนทุกวันเลยค่ะ และเมื่อไหร่พ่ออ้อนจะได้กลับบ้านมาอยู่กับหนูเสียทีหละคะ แม่ต้าร์เขาทิ้งหนูกับพ่อไปแล้วนะ น้องพลอยเหงาและคิดถึงพ่ออ้อนมา พ่ออ้อนได้ยินไหมคะ ” พอได้ยินพลอยลูกสาวพูดแค่นี้ น้ำตาของผมก็เอ่อล้นไหลออกมาโดยไม่รูตัว  ผมไม่กล้าบอกความจริงกับลูกสาวว่าตอนนี้ผมต้องโทษอยู่ในเรือนจำ เพราะกลัวว่าถ้าลูกรู้เรื่องลูกผมต้องเสียใจและต้องเสียการเรียน อีกอย่างผมกลัวว่าลูกสาวจะคิดมาก และกลัวว่าเพื่อน ๆ  ที่โรงเรียนล้อว่ามีพ่อ “ขี้คุก”  และไม่อยากให้ลูกสาวมีแรงกดดัน เพราะตอนนี้ลูกสาวผมขาดความรักจากแม่  โดยที่แม่ของเขาไม่เคยสนใจใยดีกับลูกสาวเลย แค่นี้ผมก็คิดมากพอแล้ว และถ้ารู้ว่าพ่อติดคุกอยู่ ลูกผมคงคิดไปกันใหญ่ ผมได้แต่นึกอยู่ในใจว่า ลูกจ๋าพ่อต้องขอโทษลูกด้วย ที่พ่อต้องตัดอนาคตของลูก ที่ต้องทิ้งให้ลูกอยู่เดียวดาย แต่พ่อไม่ได้ตั้งใจทำเรื่องทั้งหมดนะลูก ถ้าพ่อไม่ป้องกันตัวเองพ่ออาจจะถูกฆ่าตายก็ได้ ลูกคงไม่มีวันได้เห็นหน้าพ่ออีกต่อไป ลูกจ๋าพ่อต้องขอโทษลูกด้วยนะ ถ้าพ่อพ้นโทษออกไปเมื่อไหร่ พ่อจะตั้งใจทำงานเก็บเงินส่งเสียให้หนูได้เรียนสูง  ๆ อยากเรียนอะไรพ่อจะส่งเสียหนูเอง ลูกอยากได้สิ่งใดพ่อจะหาให้หนูเอง แต่พ่อขออย่างเดียวขอเพียงแค่ให้หนูเป็นคนดีของสังคม พ่อก็ดีใจแล้ว พ่อคนเดียวสามารถหาเลี้ยงลูกได้ ลูกไม่ต้องเป็นห่วง ขอให้ลูกตั้งใจเรียนหนังสือนะลูก ถึงพ่อจะอดจะอิ่มก็ไม่ต้องเป็นห่วงพ่อนะพ่อทนได้เสมอ พ่อขอเพียงแค่ให้ลูกของพ่อได้มีอยู่มีกินพ่อก็พอใจแล้ว และพ่อก็เป็นกำลังใจให้ลูกเสมอ  ลูกจ๋าคอยพ่ออีกหน่อย อีกไม่นานพ่อก็จะได้พ่อก็จะได้ไปอยู่กับลูก เพราะตอนนี้ได้กำหนดเวลาทำเรื่องออกจากเรือนจำแล้ว คงไม่เกินสองปีหรอกลูกรัก พ่อเข้าใจในความรูสึกของลูกดี พ่อคิดถึงหนูมากนะน้องพลอย ลูกรักของพ่อ ตอนนี้ลูกผมอายุได้ 9 ปีแล้วครับ ผมยังไม่ได้เห็นหน้าลูกสาวสุดที่รักของผมเลย
ผมอยู่ในนี้ก็ได้ศึกษาเล่าเรียนภาษาจีนกาง และขนบธรรมเนียมประเพณีจีน(ไต้หวัน) ผมหวังว่าความรู้ที่ผมได้เรียนมา ถ้าผมได้กลับไปแล้วต้องได้ใช้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว เพราะตอนนี้ภาษีนก็ถือว่า เป็นภาษาที่สำคัญภาษาหนึ่งเช่นกัน และอีกอย่างตอนนี้ก็มีธุรกิจกริธุรกิจหรือเถ้าแก่ไปเปิดโรงงานต่าง ๆ ที่เมืองไทยมากมาย ทั่วโลกก็ล้วนมีแต่ชาวจีนทั้งนั้น ผมคิดว่าถ้าผมพ้นโทษออกไปเมื่อไหร่ ผมจะไปสมัครงานกับเถ้าแก่ไต้หวัน ผมหวังว่าเถ้าแก่คงรับผมเข้าทำงานแน่ เพราะผมพูดภาษาจีนได้ และพอจะอ่านออกเขียนได้บ้างอีกอย่างคิดว่านายจ้างไต้หวันท่านคงไม่ใจไม้ใส้ระกำกับผมหรอกครับ และผมจะนำวิชาสอนลูกผมให้ได้เรียนรู้ ภาษาจีนภาษาหนึ่งที่ลูกผมจะต้องเรียนรู้ให้แตกฉาน สามารถพูดได้สือสารกับคนจีนได้อย่างคล่องแคล่ว ผมเชื่อว่าการเรียนภาษาจีนก็สามารถสร้างอนาคตได้เหมือนกัน ผมเชื่อและมั่นใจอย่างนั้น ตราบใดที่พระอาทิตย์ยังทอแสง ผมก็ยังมีความหวังอยู่เสมอ และตราบใดที่ผมยังมีลมหายใจผมก็ยังมีความหวังเหมือนกัน ไม้ล้มข้ามได้แต่คนล้มแล้วอย่าข้าม ผมเชื่ออย่างนั้น ผมคิดอยู่ในใจเสมอว่า ตอนนี้ผมล้มที่จุดไหน ผมก็ต้องลุกสู้จากจุดนั้น และแสวงหาความรู้และประสบการณ์หรือสิ่งใหม่ ๆ แล้วก้าวเดินต่อไปให้ถึงจุดหมาย เพื่อความฝันของตัวเองให้ถึงจุดหมาย ผมต่อสู้ สู้เพื่ออนาคตของตัวเองและครอบครัวในวันข้างหน้า ผมต้องทำให้ได้และต้องสำเร็จ ถ้าผมทำสำเร็จแล้วถึงแม้ผมจะตาย ผมคงนอนตายอย่างตาหลับแล้วหละครับ
และผมก็ฝากข้อคิดให้กับแรงงานไทยนิดหนึ่ง การที่เรามาทำงานในไต้หวันเราต้องรู้จักเคารพคนในท้องถิ่นและวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีของคนไต้หวัน และสิ่งที่สำคัญเราต้องรู้จักเคารพกฎหมายบ้านเมืองของเขาด้วย อย่างที่เขาว่า “เข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหลิ่วตาตาม” ชีวิตคนเรานั้นเลือกเกิดไม่ได้ก็จริง แต่ท่านสามารถเลือกทำได้ครับ มาลำบากที่ไต้หวันยังดีกว่า แล้วค่อยไปสบายที่บ้านเรายังดีกว่า ไม่ใช่มาสบายที่ไต้หวันแล้วกลับไปลำบากที่บ้านของท่าน คงจะเป็นเรื่องน่าเศร้าแน่เลยครับ  ถ้าท่านมีปัญหาเรื่องใดขอให้โทรไปที่ สายด่วน 1955 ไดเตลอด 24 ชั่วโมง ทางเจ้าหน้าที่เขาพร้อมที่จะให้คำปรึกษาแนะนำ และคอยช่วยเหลือแรงงานต่างชาติอยู่นะครับ ปัญหาทุกอย่างมีทางออกเสมอ จำไว้นะครับ 1955 ช่วยท่านได้ อีกอย่างผมอยากฝากข้อความดี  ๆ ก็คือ เหล้า ยาเสพติด และการพนัน อบายมุขต่าง ๆ มันไม่ได้ช่วยให้ท่านทั้งหลายมีความสุขหรอกครับ ถ้าท่านหลงผิดติดสิ่งเหล่านี้ท่านจะมาเป็นทุกข์ที่หลังนะครับ เหมืออย่างผมในตอนนี้ เมื่อรู้สึกตัวก็สายไปซะแล้ว
สุดท้ายนี้ผมอรัญโมดี ขอขอบพระคุณหน่อยงานทุกหน่วยงาน เจ้าหน้าที่ทุก ๆ ท่านที่ได้จัดกิจกรรมดี ๆ มีการจัดการประกวดเรียงความให้กับแรงงานต่างชาติ เพื่อให้พวกเขาได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เพื่อผ่อนคลายความเครียด ความเหงาและความคิดถึงบ้าน และไม่ไปมั่วกับอบายยมุขต่าง ๆ ขอบคุณเรือนจำไทเป ผู้อำนวยการเรือนจำ ครู-อาจาย์และผู้คุมทุกท่าน ที่ได้อบรมสั่งสอนจนทำให้ผมกลับเนื้อกลับตัวกลับใจได้ ขอบคุณอาหารและที่หลับนอน และนายแพทย์ที่ให้ความดูแลยามที่เจ็บป่วย ขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคนที่คอยให้ความช่วยเหลือตลอดจนทุกคนที่สอนภาษาจีนให้กับผม จนทำให้ผมอ่านออกเขียนได้ ถึงใคร ๆ จะดูถูกผมที่เคยติดคุกติดตารางมานั้นผมก็ไม่อาย ผมรับได้เสมอ แต่ผมกลับภูมิใจด้วยซ้ำ ที่เรือนจำแห่งนี้มีอะไรดี ๆ ซ่อนอยู่มากมาย มันขึ้นอยู่กับว่าตัวเราจะหาพบหรือเปล่า แต่สำหรับผมแล้ว ผมบอกได้เลยว่า ทำให้ผมได้เรียนรู้สิ่งดี ๆ หลาย ๆ อย่างโดยไม่ต้องเสียค่าเล่าเรียน ที่สำคัญทำให้ผมได้เรียรรู้ถึงความอดทนอดกลั้น ประหยัดและทให้ผมเป็นคนดีได้อีกครั้ง นี่ก็ 7 ปีกว่าแล้วที่ผมอยู่ที่นี่ ผมจะพยายามฝึกฝนหาความรู้วิชาต่าง ๆ และประสบการณ์ ๆ ให้มากขึ้น เพื่ออนาคตของตัวเองและครอบครัวในวันข้างหน้า ผมเชื่อว่าต้องทำได้และต้องสำเร็จ เหมือนดั่งสภาษิตที่ว่า “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น ”และผมขออวยพรให้แรงงานต่างชาติทุกท่านใช้ชีวิตในไต้หวันอย่างราบรื่น และมีความสุขตลอดไป ขอให้ทุกท่านจงสร้างฝันของตัวเองให้สำเร็จนะครับ