2015/5/14 / นายไพศาล เมืองแทน / สร้างฝันด้วยแรงและลำแข้ง / ไทย 泰國 / รายการวิทยุอาร์ทีไอในไต้หวัน
2015 / 05 / 13 นายไพศาล เมืองแทน ขอส่งผลงาน สร้างฝันด้วยแรงและลำแข้งครับ
ผมเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง พ่อผมลาออกจากหมอมาขายยาขายของชำและอาหารที่บ้าน ผมมีพี่น้องด้วยกัน 5 คน มีแต่ผู้ชายทั้งหมด ผมเป็นลูกชายคนที่ 2 ตอนยังเด็กผมช่วยพ่อแม่ค้าขายและทำนาทำงานช่วยพ่อแม่ทุกอย่าง ผมเรียนจบชั้นม.6 ที่่โรงเรียนสว่างศึกษา อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ช่างอุตสาหกรรมก่อสร้าง และผมก็ไปเรียนปรับวุฒิป.ว.ช.ช่างยนต์พิเศษหนึ่งปีจบ ที่่โรงเรียนโปลีเทคนิคจ.อุดรธานี เพื่อจะได้หางานง่าย พอผมเรียนจบ ก็เดินทางไปทำงานที่กรุงเทพ ทำงานติดตั้งแอร์รถยนต์ได้ค่าจ้างเป็นรายวัน วันละ 135 บาท ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2536 เมื่อก่อนนี้ก็ถือว่าได้รับค่าจ้างมากแล็ว ผมพักอยู่กับพี่ชาย และพี่ชายผมทำงานติดตั้งซ่อมโทรศัพท์ที่่กรุงเทพเหมือนกัน พอผมทำงานครบหนึ่งปี เฒ่าแก่ก็ขึ้นเงินเดือนให้ผมเป็นเดือนละ 5000 บาท ผมทำงานได้ปีครึ่งก็ได้ยินข่าวว่าญาติทางบ้านไปทำงานที่ประเทศไต้หวันได้เงินส่งกลับบ้านไม่ต่ำกว่าเดือนละ 15000 บาท พ่อแม่ผมได้ยินข่าวก็มาเล่าให้ผมฟังและถามผมว่าอยากไปทำงานที่เมืองนอกไหมประเทศไต้หวันได้เงินเดือนมากนะ ผมก็เลยตัดสินใจรับปากพ่อแม่ว่าไป เพราะผมมีความตั้งใจตั้งแต่ตอนเด็กอยากไปหาเงินได้มากๆเหมือนคนทางบ้านผมเมื่อก่อนไปทำงานที่ประเทศซาอุดิอาระเบียได้เงินเดือนไม่ต่ำกว่าสองหมื่น ได้เงินส่งมาบ้านซื้อนาซื้อบ้านซื้อรถส่งลูกเรียนสูงได้รับราชการกลับมาบ้านก็มีเงินฝากและซื้อวัวมาเลี้ยงขยายพันธุ์และได้ขายดีมีกำไรอยู่บ้านได้สบายๆไม่ขัดสน ผมก็เลยตัดสินใจไปสมัครเดินทางไปทำงานที่ประเทศไต้หวันเผื่อจะได้มีโอกาสร่ำรวยเหมือนคนทางบ้านผม อยากไปทำงานประเทศซาอุดิอาระเบียตอนนั้นแต่ไม่รับคนงานไทยแล้วเพราะคนไทยไปขโมยเพชรซาอุมาครับ เลยหมดโอกาสไป ผมสมัครงานไว้ในบริษัทจัดหางานที่จังหวัดอุดรธานี แล้วผมก็ไปทำงานรอที่กรุงเทพ ไม่นานบริษัทจัดหางานก็เรียกตัวผมมาสอบผลการสอบก็ผ่าน ไม่นานผมก็ได้ลาออกจากงานเตรียมตัวเดินทางมาประเทศไต้หวันช่วงต้นปี 2538 ตอนนั้นค่าเดินทาง 75000 บาท เงินเดือน 14010 เหรียญไต้หวันยังไม่รวมโอที สัญญาสองปี ผมกู้ยืมเงินจากลุงผมที่ทำงานอยู่กรุงเทพ พ่อผมเป็นคนค้ำประกันเงินให้ ผมก็ได้เดินทางมาทำงานโรงงานพับโลหะที่เขตไทเป ผมก็ทำงานได้อย่างสบายเพราะผมมีพื้นฐานการทำงานเกี่ยวกับเครื่องยนต์กลไกหลายอย่าง ภาษาก็พอพูดได้เพราะผมซื้อหนังสือภาษาจีนกลางมาอ่านและศึกษากับการทำงานไปด้วย เฒ่าแก่ก็ใจดีมากๆเลยจ่ายเงินเดือนเต็มโอทีมีทุกวันให้เบี้ยขยันเดือนละ 1500 เหรียญทุกเดือนถ้าไม่ขาดงานผมก็ได้รับทุกเดือนเพราะผมเป็นคนไม่ชอบขาดลางาน ผมได้รับเงินเดือนรวมโอทีแล้วได้สองหมื่นกว่าเหรียญ ตอนนั้นค่าล่ามค่าที่พักค่าอาหารและค่าตรวจโรคก็ไม่ได้จ่ายเพราะเฒ่าแก่จ่ายให้หมดเลย ผมก็ขยันทำงานมากๆบางช่วงงานเร่งวันอาทิตย์ก็ได้ทำงานไม่ได้หยุดพัก แต่งานก็ไม่หนักทำสบายๆ อยู่มาไม่นานเฒ่าแก่ใจดีซื้อโทรทัศน์ใหม่จอใหญ่ซื้อเครื่องเสียงตู้เพลงคาราโอเกะ และซื้อโต๊ะสนุ๊กเกอร์ให้เล่นในช่วงวันหยุด ผมโอนเงินกลับบ้านแต่ละเดือนไม่ต่่ำกว่าหนึ่งหมื่นแปดพันบาทใช้หนี้ลุงของผมไม่นานก็หมดครับ ทำงานครบหนึ่งปีพอดีถึงช่วงเทศกาลตรุษจีนเฒ่าแก่ใจดีให้อังเปาสามหมื่นเหรียญดีใจมากๆเลย และทำงานครบสองปีเฒ่าแก่่ก็ให้อังเปาอีกสี่หมื่นเหรียญก็ดีใจมากๆอีก ตอนนั้นค่าเงินไต้หวันอ่อนกว่าเงินไทยนิดหนึ่ง ช่วงนั้นแผ่นดินไหวบ่อยๆแต่ไม่ค่อยแรงผมก็กลัวช่วงแรกๆ อยู่ไปเรื่อยๆก็ชินแล้ว ผมก็ภูมิใจคนไต้หวันมากๆเลยมีน้ำใจดีชอบช่วยเหลือเกื้อกูลให้การต้อนรับแรงงานต่างชาติได้ดี เสื้อผ้าสิ่งของเครื่องใช้ก็หามาให้อำนวยความสะดวกอย่างดีมากเลย ผมทำงานครบสัญญาสองปีในตอนนั้นได้เงินหลายแสนครับ ได้ซื้อนาหนึ่งแปลงหกไร่สามงานราคาแปดหมื่นบาทติดกับนาพ่อผมเป็นนาของลุงอีกคนขายให้อยู่ใกล้บ้าน ได้ให้เงินพ่อแม่ช่วยยกบ้านสูงขึ้นถมหินลงพื้นทำกำแพงบ้านตกแต่งบ้านเพื่อขายของให้ดูดีขึ้น และได้ดาวน์รถตู้มือสองแปดหมื่นผ่อนเดือนละหกพันผ่อนสามปีหมด เพราะตอนนั้นไต้หวันไม่เปิดรับคนงานเก่าอีกต้องรออีกนาน ผมก็เลยขับรถตู้เดินทางเข้ากรุงเทพไปขับวินรถตู้ถนนงามวงวานไปหมู่บ้านรัตนาธิเบศน์ตอนนั้นน้ำมันดีเชลลิตรละหกบาทค่าโดยสารสิบบาทตลอดสายตั้งแต่ปีพ.ศ. 2540 หักค่าน้ำมันแล้วเหลือวันละแปดร้อยกว่าบาทก็พอได้ส่งงวดและเก็บฝากไว้บ้าง ขับไปเรื่อยๆค่าวินก็แพงน้ำมันก็แพงขึ้น รายจ่ายมากหัวหน้าวินอื่นก็ว่าวิ่งทับเส้นทางกันมีเรื่องไม่ดีต่อกัน ผมก็เปลี่ยนไปวิ่งหลายเส้นทางพอผ่อนงวดรถเสร็จก็เปลี่ยนมาวิ่งทางไกลบ้างจากสกลนครไปกรุงเทพรับส่งคนไปทำงานบ้างรับเหมาไปพออยู่ได้ แต่รถก็เก่าสภาพไม่ค่อยดีผมก็ทั้งขับทั้งซ่อมทุกอย่างไปเพราะผมได้เรียนมาเกี่ยวกับช่างยนต์ด้วย แต่ผมก็สงสารรถอยากจะพักผ่อนรถบ้าง ไม่นานผมก็ได้ยินข่าวประเทศไต้หวันเปิดรับคนงานเก่าอีกสัญญาจ้างงานหกปีผมก็เดินเรื่องมาทำงานที่ไต้หวันอีก เมื่อปีพ.ศ.2547 ค่าคอมหนึ่งแสนสี่หมื่นห้าพันบาท เงินเดือนหนึ่งหมื่นเจ็ดพันกว่าเหรียญ ผมได้ทำงานโรงงานทำจักรยานแผนกทำโช๊คจักรยาน ที่เขตไทจง ต้าเจี๋ย ผมได้ทำงานควบคุมเครื่องทำกระบอกโช๊คลำบากแต่ตอนแรกพอเป็นงานก็ทำสบายๆแต่ได้ยืนทำพอมีเวลาได้เบรคพักสิบนาทีด้วย มีคนไทยหกสิบคนอยู่รวมกันสบายดี คนไต้หวันก็มีน้ำใจดีครับ ผมก็ส่งเงินกลับบ้านให้ภรรยาลืมบอกว่าผมแต่งงานก่อนมารอบที่สองครับ ครบสามปีก็กลับบ้านนำเงินกลับไปทำบ้านเป็นของตัวเองผมทำบ้านสองชั้นข้างบนเป็นไม้ข้างล่างทำพื้นปูนทำที่จอดรถตู้ไว้ข้างบ้าน ทำบ้านเสร็จผมก็เดินทางมาไต้หวันอีกในรอบที่สามช่วงปลายปีพ.ศ.2550 ผมได้ทำงานโรงงานครอบครัวคุมเครื่องทำข้อต่อข้องอพีวีซี งานก็หนักแต่ช่วงแรกทำไปเรื่อยๆก็คล่องทำได้สบายดีเฒ่าแก่ก็ใจดีซื้อสิ่งของให้ใช้ครบปีได้อังเปาพอสมควรเงินเดือนก็ดีมีโอทีทำตลอดผมก็ส่งเงินกลับบ้านให้ภรรยาทุกเดือนตลอดครบปีที่สามเฒ่าแก่ซื้อนาฬิกาเรือนละหนึ่งหมื่นสี่พันเหรียญและเสื้อแขนยาวตัวละสามพันให้ผมดีใจมากๆเลยครับทำงานครบสามปีก็กลับไปบ้านได้เงินฝากไว้บ้างส่งลูกเรียนด้วย ผมมีลูกสาวหนึ่งคนลูกชายหนึ่งคนกำลังเรียนหนังสือใช้เงินพอสมควร ตอนนั้นผมจะมาไต้หวันก็ไม่ได้เพราะสัญญาจ้างงานตามกฎหมายไม่เกินเก้าปี ผมทำงานได้แปดปีกว่าแล้ว ต้องรอก่อน ผมก็ขับรถออกไปหาทำงานรับเหมาก่อสร้างใกล้บ้าน รับทำงานในหมู่บ้านเอื้ออาทรในจังหวัดอุดรธานีจ.ขอนแก่นจ.มหาสาระคามไปตามงานที่มีเพราะผมมีเครื่องมือครบและเคยเรียนมาด้วยครับ ไม่นานผมก็ได้ยินข่าวว่าไต้หวันเปิดรับคนงานเก่าและขยายการทำงานสิบสองปี ผมก็เดินเรื่องมาทำงานอีกเป็นรอบที่สี่ในปีพ.ศ.2556 ช่วงกลางปี ค่าคอมหกหมื่นห้าพันบาท เงินเดือนหนึ่งหมื่นเก้าพันกว่าเหรียญ ผมได้ทำงานในโรงงานย้อมผ้า แผนกรับผ้าขาวใส่รถไว้ให้แผนกย้อมเอาไปย้อม งานก็ทำสบายดีคุมเครื่ิ่องล้างผ้าโอทีมีทำทุกวันในวันอาทิตย์ก็ได้ทำงานไม่ค่อยได้หยุดพักเลย เงินเดือนก็ดีรวมโอทีก็สองหมื่นกว่าเหรียญส่งกลับบ้านและฝากเข้าบัญชีส่วนตัวผมบ้าง ตอนนี้ก็กำลังจะครบสองปีในเดิอนหน้านี้ครับ ผมก็ขยันมาทำงานทุกๆวันไม่ขาดไม่ลารักษาสถิติเดิมได้ ตอนที่ผมเรียนก็เคยได้รับใบประกาศขยันมาเรียนครับ
ผมชอบไปทำบุญในวันหยุด ถ้าอาทิตย์ไหนได้หยุดผมก็ไปทำบุญที่วัดใกล้ๆเขตเถาหยวนมีวัดไทยเพื่อเสริมบารมีและผมได้สอบนักธรรมตรีได้ที่วัดนี้แล้ว ผมจะพยายามรักษาศีลห้าให้ได้ ผมได้เข้ามาไหว้พระในวัดนี้ก็สบายใจมีความสุขใจมากๆครับ ถ้าผมได้รับรางวัลในวรรณกรรมนี้ผมจะแบ่งเงินรางวัลไปทำบุญมากๆเลยครับ
และรายการการวิทยุอาร์ทีไอในไต้หวันก็ประกาศให้ส่งวรรณกรรมเรื่องราวของตัวเองมาประกวดผมก็ขอขอบพระคุณอย่างมากๆเลยครับ เพราะเป็นรายการที่ดีมีประโยชน์มากมายแก่ผู้รับฟังเช่นผม ให้ความรู้ข่าวสารสาระประโยชน์นำมาปฎิบัติตาม สอนภาษาจีนกลางด้วย แนะนำขั้นตอนต่างๆในการอยู่รวมกับสังคมคนไต้หวัน หลีกเลี่ยงสิ่งที่ผิดกฎหมายสิ่งที่ไม่ดีไม่ให้เราหลงผิด ไปทำผิดไปติดคุกติดตารางไม่ดีเสียอนาคต ให้ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ อดทน อ่อนน้อมถ่อมตน ถือศีลห้า ละอบายมุกทุกอย่าง อย่านอนตื่นสาย อย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา ผมก็จะพยามทำตามให้ได้ครับ คนเราถ้าทำดีก็ย่อมได้ดีแน่นอน ยอมลำบากวันนี้ จะสุขขีเปรมปรีสบายดีในวันข้างหน้าแน่นอนครับ ตอนนี้ผมก็มีครบเกือบทุกอย่างแล้ว มีบ้าน มีรถ มีเมียมีลูกที่ดี เงินฝากก็กำลังจะมีมาก การงานที่บ้านก็จะมีทำแน่นอน ชีวิตของผมสู้กับงานใช้ความขยันอดทน มุ่งมั่นสร้างความฝันด้วยลำแข้งของตัวเองให้สำเร็จให้ได้ในเร็ววันนี้ ผมมีความตั้งใจจริงๆ อยากเห็นบ้านเมืองไทยเราเจริญก้าวหน้าทัดเทียมประเทศอื่นที่ดีแล้ว อยากนำเทคโนโลยี่ไปใช้บ้านเราพัฒนาให้ดีขึ้นไป ผมเคยชวนพี่น้องล้างเท้าพ่อแม่ด้วย ได้ทำแล้วสบายใจเหมือนได้ทำบุญที่วัดหลายๆวัด สมปรารถนาเกือบทุกอย่างแล้วครับ ตอนนี้ ผมขอเล่าเรื่องแค่นี้ก่อนดึกแล้วหกทุ่มกว่าแล้วครับ พรุ่งนี้ผมทำงานที่ไต้หวันตามเคย สู้ๆๆสร้างความฝันให้สำเร็จครับ ถ้าผมได้รับรางวัลนี้จะทำบุญให้มากๆเลยครับผมเล่ามาเป็นเรื่องจริงทุกอย่างครับ ขอขขอบคุณมากๆครับ